top of page

มันเป็น'ความสุข'ของเรา การที่เราชอบแต่งตัว



“ก็มันความสุขกูป่ะ!!!”

คำพูดนี้ คงเป็นคำพูดที่บางคนอาจจะพูดบ่อย หรืออาจจะไม่เคยพูดเลยด้วยซ้ำ หลาย ๆ ครั้งนะครับ ที่เรามีความคิดที่อยากจะพูดประโยคออกไป เมื่อมีคนมาติหรือพูดอะไรกับเรา โดยเฉพาะเรื่องของการแต่งกาย ทั้งผู้ชายและผู้หญิง แต่ในฐานะที่เป็นแอดมินผู้ชายไม่กี่คนในเพจ ผมแค่อยากจะแชร์เรื่องนี้กับทุกคนครับ

เชื่อไหมครับว่า การแต่งตัวเนี่ย มันเป็นสิ่งที่สร้าง self-esteem หรือความมั่นใจของเราขึ้นมา และไอ้ self-esteem เนี่ยแหละ ที่มันทำให้เรามีความสุข หลาย ๆ ครั้งนะครับ ที่คนภายนอกชอบตัดสินว่า “ผู้ชายห้ามใส่เสื้อผ้า หรือ เครื่องประดับของผู้หญิง!!” “กล้าใส่เอวลอยได้ไงวะ โคตรอ้วนเลย!!” “แม่งไปเอาความมั่นใจมาจากไหนวะ ถึงได้มั่นหน้าแต่งตัว / แต่งหน้าแบบนี้” “แม่งเป็นแน่เลยว่ะ” หรือ “แต่งแบบนี้ โคตรเสี่ยวเลยว่ะ” เฮ้ย!! ใครเป็นคนสร้างกฎขึ้นมาว่า เราห้ามแต่งแบบนั้นหรือแบบนี้ มันเป็นเรื่องของเรา เป็นความสุขของเราป่ะ? ที่เราจะเป็นแบบไหนก็ได้ อยากแต่งแบบไหนก็ได้ และไอ้การแต่งตัว การเลือกเสื้อผ้า เลือกเครื่องประดับเนี่ยแหละ ที่มันเป็นความสุขของเรา และที่สำคัญนะ เราไม่ได้ไปทำให้ใครเดือดร้อน ก็แค่แต่งในสไตล์ของเรา ไม่ได้ไปฆ่าใครตายนะเว้ย และอะไรที่ทำแล้วมีความสุขน่ะ ทำไปเถอะ ไม่ต้องไปแคร์สายตาใคร เพราะอะไร? “เพราะความสุขน่ะ มันมาจากตัวเราเอง ไม่มีใครมาตัดสินหรือบังคับให้เรา สุขหรือไม่สุขได้ เราเป็นคนกำหนด!”

ในมุมมองของผู้ชายอย่างผมนะครับ มันไม่เคยมีกฎเกณฑ์ว่า ผมต้องแต่งตัวแบบไหน ต้องใส่ของผู้ชายเท่านั้น ต้องแต่งแมนหรือใด ๆ มีครั้งหนึ่ง ผมเคยเอากางเกงยีนส์และเสื้อของน้องสาวมาใส่ เพราะแค่มองว่ามันสวยดี และคิดว่าจะเป็นยังไงถ้ามันมาอยู่บนตัวของเรา แล้วพอเอามาลองใส่ เออ มันก็เข้าท่านะ และผมก็แค่คิดว่า ใส่แล้วผมชอบก็แค่นั้น แล้วผมก็เดินออกจากบ้าน ตอนนั้นก็มีเพื่อนแซวบ้างแหละว่าเสื้อผ้าเหมือนผู้หญิงเลย เราก็ทำได้แค่ยิ้ม ๆ แล้วบอกว่า เสื้อผ้ามันตัวเล็กแค่นั้นแหละ ตอนนั้นก็รู้สึกเขิน ๆ นะ แต่ก็ได้แค่คิดในใจว่า สำหรับเรา เราว่ามันโอเค ไม่ได้แย่ 

ผมขอยกตัวอย่าง เจมส์ - ธีรดนย์ ศุภพันธุ์ภิญโญ นักแสดงวัยรุ่น ที่มีสไตล์การแต่งตัวเป็นของตัวเอง โดยการที่เอาเสื้อผ้าผู้หญิงมาใส่มิกซ์กับเสื้อผ้าผู้ชาย เคยได้ให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับเรื่องการแต่งกายของตัวเขาเองไว้ว่า 

“ผมรู้สึกว่าผมไม่ได้เดือดร้อนอะไร เราเป็นของเราแบบนี้ เราไม่สามารถไปบังคับความคิดเขาได้ว่าเราเป็นผู้ชายแท้หรือเปล่า แต่เรารู้ตัวเองว่าเราเป็นผู้ชายแท้ แค่เราชอบแบบนี้ ชอบแต่งตัวแบบนี้ เราสนุกกับการหยิบเสื้อผ้าผู้หญิงมาใส่…”  



เจมส์ไม่ได้มองว่า เขาจะต้องแต่งตัวตามกรอบของสังคมที่ตีเอาไว้ว่า เขาจะต้องใส่เสื้อผ้าผู้ชายเท่านั้น เขาแค่มีความสุขและสนุกกับการแต่งตัวในสไตล์ของเขาเท่านั้น แน่นอนว่าเจมส์ก็ได้บอกไว้เช่นกันว่า แรก ๆ เขาก็มีเคอะเขินอยู่บ้าง แต่เขาก็เลือกที่จะเป็นในแบบของเขา และไม่สนใจคำวิจารณ์หรือคอมเมนท์ใด ๆ ที่มีคนมาหาว่าเขาเป็นอย่างนู้นอย่างนี้

และจากทัศนคติของเจมมี่เจมส์เนี่ยแหละครับ ที่เป็นตัวพิสูจน์ให้เราเห็นว่า ความสุขจากการแต่งกายของเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับใคร แต่มันขึ้นอยู่กับตัวเรา และมันอยู่ในตัวเราเองทั้งนั้น

จงอย่าแคร์คำพูดของคนอื่นที่มาวิจารณ์เกี่ยวกับรสนิยมของเรา ไม่ว่าเราจะเป็นเพศไหนวัยใด เราก็มีสิทธิ์ที่จะแต่งตัวในแบบที่เรามีความสุข แล้วคุณล่ะ พร้อมที่จะมีความสุขไปกับการแต่งตัวในแบบของตัวเองหรือยัง?

Comments


bottom of page